สำหรับตากล้องมือใหม่ที่เพิ่งมีกล้องคู่ใจเป็นของตนเอง คงจะยังสงสัยว่าเอ๊ะ ! ปุ่มโหมดบนตัวกล้องทำไมมีตั้งหลายโหมด ทั้ง ๆ ที่เราก็ใช้แค่ถ่ายภาพอย่างเดียว แล้วแบบนี้โหมดอื่นไว้ใช้ทำอะไรได้บ้าง และจะใช้ได้ในสถานการณ์ใด วันนี้ทางเราจะมาไขข้อข้องใจกัน
1. M (Manual Mode) โหมดนี้เป็นโหมดที่ผู้ใช้จะต้องปรับค่ากล้องเองทั้งหมด เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่เราต้องตั้งค่าเอง เพื่อให้ได้ภาพตามที่ผู้ถ่ายต้องการ ข้อเสียของโหมดนี้คือ ค่าทุกค่าล็อคไว้ตามที่ผู้ใช้ตั้งค่า หากมีช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน เช่น แสงเดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่าง ก็อาจจะทำให้ภาพเสียได้ ดังนั้นผู้ใช้งานต้องใช้ความชำนาญและความรวดเร็วในการตั้งค่ากล้องให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
2. Av (Aperture Value) หรือ A (Aperture Priority) โหมดนี้กล้องจะปรับการตั้งค่าISOและSpeed Shutterให้อัตโนมัติ ยกเว้นค่ารูรับแสง (ค่าF) ที่ผู้ใช้สามารถปรับเองให้เข้ากับสถานการณ์ได้ เช่น เมื่อผู้ใช้ต้องการถ่ายนางแบบให้ละลายหลัง ก็สามารถปรับค่ารูรับแสงให้กว้างที่สุด ต่อให้เราหมุนมุมกล้องแล้วแสงเปลี่ยนแค่ไหน ค่ารูรับแสงก็จะไม่เปลี่ยนตามไปด้วย ข้อเสียของโหมดนี้คือ หากเลนส์เรามีรูรับแสงไม่กว้างมากพอ กล้องอาจปรับ Speed Shutterให้ต่ำจนทำให้ภาพเบลอ หรือดันISO ให้สูงจนเกิดNoiseได้
3. Tv (Time Value) หรือ S (Shutter Priority) โหมดนี้กล้องจะปรับการตั้งค่าISOและค่ารูรับแสง (ค่าF) ให้อัตโนมัติ ยกเว้นค่า Speed Shutter ที่ผู้ใช้จะต้องปรับเอง โดยโหมดนี้จะเหมาะกับการถ่ายสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เช่น การแข่งรถ การแข่งกีฬา ผู้ใช้จะทำการล็อค Speed Shutter ไว้สูง ๆ เพื่อไม่ให้ภาพเบลอหรือเบลอน้อยที่สุด ข้อเสียของโหมดนี้คือ หากถ่ายในที่แสงน้อย และเลนส์ของเรารูรับแสงไม่กว้างมากพอ กล้องจะดัน ISO ให้สูงขึ้นจนทำให้เกิด Noise ได้
4. P (Program) โหมดนี้กล้องจะปรับค่าSpeed Shutter และค่ารูรับแสง (ค่าF) ให้อัตโนมัติ โดยเราสามารถปรับค่า ISO เองหรือจะเลือกให้กล้องช่วยปรับให้เหมาะสมก็ได้ ซึ่งจะสะดวกในกรณีที่ผู้ใช้ไม่อยากปรับค่าเองบ่อย ๆ หรือต้องการความรวดเร็วในการปรับค่า ข้อเสียของโหมดนี้คือ หากเราวัดแสงไม่ดี การปรับค่าของกล้องก็จะเพี้ยน อาจทำให้ได้ภาพที่มืดหรือสว่างเกินไป สามารถแก้ไขได้โดยการปรับชดเชยแสง เพื่อให้ภาพสว่างพอดีได้นั่นเอง
กล้องคู่ใจของเรายังมีอีกหลายสิ่งให้เราศึกษาและปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งานของเรา และ/หรือ เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ยิ่งเราศึกษาและใช้กล้องจนชำนาญมากเท่าไร ก็ยิ่งช่วยให้เราใช้กล้องได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากเท่านั้น