ผู้ใช้กล้องมือใหม่หลายคนหลังจากที่ได้กล้องมาแล้ว ส่วนใหญ่จะนิยมใช้โหมด P หรือ Auto เพื่อให้สะดวกในการถ่ายภาพ เพราะเราไม่ต้องปรับค่าต่าง ๆ ในกล้อง ในขณะเดียวกัน ระบบ AI ของกล้องก็จะเป็นตัวปรับค่าเพื่อให้ได้ภาพที่เราต้องการ หลายครั้ง AI ของกล้องก็ทำงานผิดพลาด จนเราพลาดที่จะเก็บช่วงเวลาสำคัญนั้นไป อีกทั้งการใช้โหมด Auto จะทำให้ผู้ใช้ไม่ได้เรียนรู้การปรับตั้งค่ากล้องของตนเอง ดังนั้นผู้ใช้กล้องจึงควรทำความเข้าใจกับการตั้งค่าหลัก ๆ ของกล้อง ซึ่งมี 3 ตัวและมีความสัมพันธ์กัน ดังนี้
Speed Shutter
สำหรับตัวแรกคือตัวความเร็วชัตเตอร์ หากพูดให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น คือระยะเวลาที่กระจก(หรือม่านชัตเตอร์) พับขึ้น เพื่อให้แสงสามารถเข้าไปสู่เซนเซอร์ของกล้องได้ในระยะเวลาตามที่เราตั้งค่าไว้ หากความเร็วชัตเตอร์มีค่ามาก ม่านชัตเตอร์ก็จะปิด-เปิดเร็ว ทำให้แสงเข้าสู่ตัวเซนเซอร์ได้น้อย จะสามารถเก็บภาพความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วได้ดียิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นการถ่ายรถวิ่ง หรือถ่ายสัตว์ที่มีการเคลื่อนไหวเร็ว
แต่หากความเร็วชัตเตอร์มีค่าน้อย ม่านชัตเตอร์ก็จะปิด-เปิดช้าลง ทำให้แสงเข้าสู่ตัวเซนเซอร์ได้นานขึ้น ภาพที่ได้จะเป็นภาพที่ไม่อยู่นิ่ง ยกตัวอย่างเช่นการถ่ายแสงไฟที่เป็นเส้น หรือการถ่ายคนที่แสดงให้เห็นการเคลื่อนที่ไปมาไม่หยุดนิ่ง
การใช้Speed Shutter สูงทำให้จับภาพนักกีฬาได้ชัด
การถ่ายไฟเป็นเส้นโดยใช้ Speed Shutter ต่ำ
Aperture
ค่าต่อมาคือค่ารูรับแสง หากอยู่ในหน้าจอจะแทนสัญลักษณ์ด้วยตัว F โดยปกติแล้วค่านี้จะมีตัวเลขน้อยหรือมากขึ้นอยู่กับตัวเลนส์ของกล้อง ยิ่งค่าน้อย รูรับแสงจะยิ่งกว้าง กลับกัน ยิ่งค่ามาก รูรับแสงจะยิ่งแคบลง หากเราเลือกใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้าง (ค่าFต่ำ) จะได้ภาพที่มีการละลายฉากหลังของภาพมาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทางยาวโฟกัส และระยะจากปลายเลนส์ถึงตัวแบบด้วย นอกจากนี้การใช้รูรับแสงกว้างจะช่วยในเรื่องของการถ่ายกลางคืนให้ดียิ่งขึ้น
เลนส์ 85mm. ที่ F2.8 ทำให้ละลายหลังได้ดี 
18-55mm. ที่ระยะ 30mm. F4 ก็ช่วยให้ละลายหลังได้
ISO
ISO เป็นค่าความไวต่อแสงของเซนเซอร์กล้อง หากค่า ISO ต่ำ หมายถึงกล้องมีความไวต่อแสงน้อย เหมาะสำหรับการถ่ายภาพในที่กลางแจ้ง หรือมีแสงเพียงพอ หากค่า ISO สูง หมายถึงกล้องมีความไวต่อแสงมาก แต่ปัญหาที่ตามมาคือจะเกิดจุดรบกวน (Noise) บนภาพได้ง่าย
การใช้ISO สูงช่วยให้ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น แต่แลกมากับการเกิดจุดรบกวนบนภาพ
กล่าวโดยสรุป
ค่าความเร็วชัตเตอร์จะเป็นตัวกำหนดความเร็วของม่านชัตเตอร์ ยิ่งมีค่ามากจะยิ่งได้ภาพที่หยุดนิ่งและคมชัด
ค่ารูรับแสง จะเป็นค่าที่กำหนดความกว้างของเลนส์ที่รับแสงเข้ามา ยิ่งมีค่าน้อย จะยิ่งรับแสงได้มาก
ค่าISO จะเป็นค่าความไวแสงของกล้อง ยิ่งมีค่ามากจะช่วยให้ถ่ายในที่แสงน้อยได้มากขึ้น แต่ก็จะทำให้เกิดจุดรบกวน (Noise) บนภาพได้มากขึ้นตามไปด้วย
